Sunday, 20 March 2016

"พล.อ.อักษรา" เจรจาดับไฟใต้ ยื่นข้อเสนอผู้ก่อความไม่สงบ แลกพื้นที่สันติ

สัมภาษณ์พิเศษ
เหตุร้ายรายวันในพื้นที่ปลายด้ามขวาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงคุกรุ่น มาพร้อมกับคำถามถึงความคืบหน้าในนโยบายพูดคุยเพื่อสันติสุขของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี-หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 

1 ปี 6 เดือนกับภารกิจดับไฟใต้ของหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข "พล.อ.อักษรา เกิดผล" หรือ "บิ๊กโบ้" หลังรับงานหิน งานของชาติ ทว่าหลายฝ่ายยังตั้งคำถามถึงความสำเร็จ เป็นรูปธรรม จับต้องได้ ยิ่งถูกนำไปเปรียบเทียบกับคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพ ที่มี "เสธ.แมว" พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เป็นหัวหน้าพูดคุย ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปรากฏภาพลงนามพูดคุยสันติภาพกับ นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำขบวนการบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต โดยมีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกอย่างอึกทึกครึกโครมไปทั่วโลก ยิ่งถูกตั้งคำถาม
ในวันที่ "พล.อ.อักษรา" เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ให้สัมผัสตัวเป็น ๆ สัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ไล่หลังเสียงระเบิดกัมปนาทในพื้นที่ภาคใต้เพียงไม่กี่วัน 

เขาบอกสาเหตุที่ต้องเก็บตัว-ปิดปากไม่ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเรื่องของความมั่นคง-ความสูญเสีย เป็นเรื่องความเป็นความตาย ก่อนจะกางตำรายุทธ์ "ชิงมวลชน" ดับไฟใต้ พร้อมกางข้อเสนอให้ 38 อำเภอในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ "เซฟตี้โซน" ก่อนออกเดินทางไปพูดคุยในเดือนมีนาคมนี้ 

- ทุกครั้งที่เกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้รู้สึกอย่างไร
ไปชมทุกคนทำดีหมด มีแต่คณะพูดคุยที่ทำไม่ดี ไม่ใช่ แล้วคณะพูดคุยมีหัวหน้าพูดคุยคนเดียวหรือเปล่า เลขาฯ สมช. (สภาความมั่นคงแห่งชาติ) เลขาฯ ศอ.บต. (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้) ผู้แทนกองทัพภาคที่ 4 ผู้แทนกองทัพบก สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ก็อยู่ อยู่กันหมด

เหมือนเราเดินมาอยู่ดี ๆ แล้วมีคนมาสาดน้ำอยู่ข้างมุมตึก แล้วผมไปดึงไอ้คนที่สาดน้ำออกมาจากมุมตึก นี่ไงไอ้คนที่สาด กลับมาบอกว่าไปดึงมันออกมาทำไม ไปยกระดับ เป็นอย่างนั้นไป แต่ก่อนหน้านี้ไม่ว่าอะไรนะ เอาออกมาให้ พอมีเหตุจะได้ให้เขารับผิดชอบ ไม่เห็นประณามเลย แต่มาบอกว่าคณะพูดคุยคุยไม่ดีเลยมีระเบิด ไม่ใช่ ตอนนี้ประชาชนต้องสนับสนุนการพูดคุย และประณามประชาชนต้องไม่เอาความรุนแรง ไม่เอาก่อการร้าย แล้วกลุ่มต่าง ๆ ที่อ้างว่าทำเพื่อประชาชน แต่ประชาชนบาดเจ็บ สูญเสีย มันใช่หรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ประชาชนว่าจะเชื่อใคร เลือกใคร 

- เชื่อว่าประชาชนอยู่ฝ่ายรัฐทั้งหมดแล้วหรือยัง
ไม่อยู่ข้างเราแล้วจะไปอยู่ข้างไหน มีเหรอคนที่ไปอยู่ข้างโน้น ก็มีแต่พวกมีความคิดสุดโต่ง ถึงมีระเบิด มียิงกันอยู่นี่ไง มันมีพวกสุดโต่ง ไม่ยอมปรองดอง 

- ความรุนแรงในพื้นที่ที่ยังเกิดขึ้นเพราะการพูดคุยไม่ได้ผล
ผมมองว่าคุยดีกว่าไม่คุย เขาต้องการอะไรก็บอกเรา เมื่อก่อนเกิดการวางระเบิด เขาก็ไม่ได้มาบอกเราว่า เขาต้องการอะไร คราวนี้สามารถถามได้ ตอนนี้เขาออกมาแล้ว แล้วที่มันล้มเหลว หัวหน้าทำคนเดียวเสียที่ไหน แล้ว สมช.ล่ะ แม่ทัพภาค 4 ล่ะ กองทัพบกล่ะ ดีหมดเลยเหรอ

- ทีมเจรจายังเป็นเอกภาพอยู่หรือไม่
นโยบายนี้เป็นของท่านนายกฯ ที่ต้องการแก้ปัญหาด้วยการพูดคุย จึงได้ตั้งคณะพูดคุยขึ้นมา ทุกภาคส่วนต้องสนับสนุน เพราะเป็นนโยบายรัฐบาล ไม่ใช่นโยบายของ พล.อ.อักษรา เพียงคนเดียว แล้วเลขาฯ สมช. เลขาฯ ศอ.บต. แม่ทัพภาค 4 กองทัพบก สำนักงานข่าวกรอง อยู่ในนี้ทั้งหมด แล้วข้างหลังผมไปแสดงความเห็นต่างได้หรือไม่ ก็มันอยู่ทีมเดียวกัน 

ทีมของเราคือส่วนงานความมั่นคงของรัฐ ผมประชุมกันทุกวันในคณะพูดคุย มีใครเห็นต่างจากนี้ไหม ผมบอกเลยว่า รีบยกมือได้ ผมจะได้โอนไปอยู่อีกข้างหนึ่ง

- ความเป็นทหารเป็นข้อจำกัดในการพูดคุยหรือไม่

เราเป็นฝ่ายไม่ได้เข้าไปทำร้ายใคร เราต้องการสันติสุข ประชาชนต้องการ แล้วใครต้องการความรุนแรงล่ะ ใครมีข้อเรียกร้อง ใครมีเงื่อนไข ไม่ใช่ฝั่งเรา รัฐบาลบอกจะเอาอะไร เอาความยุติธรรม เอาอาชีพ เอาการพัฒนา ทำให้หมด ถามว่าพวกใช้ความรุนแรงเขาให้ได้หรือไม่ ไม่ได้หรอก แต่คนที่ให้ได้คือ รัฐบาล หมดสมัยแล้วที่จะเอาทหารไปไล่ 

ตอนนี้เราใช้พลังประชาชน ขับไล่ผู้ก่อเหตุรุนแรงออกจากหมู่บ้าน ถ้าทหารเข้าไปต้องไปเคาะทุกบ้าน เดี๋ยวก็มี กรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนเข้ามาอีก

- ความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุขเป็นอย่างไรบ้าง

การพูดคุยเพื่อสันติสุขถือเป็น 1 ใน 7 กลุ่มงาน ในการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้ง การพูดคุยเพื่อสันติสุข จะทำให้อีก 6 กลุ่มงานที่ทำก่อนหน้านี้มีความชัดเจนขึ้น โดยไปถามผู้ก่อความไม่สงบว่า อยากจะเอายังไง ส่วนข้อเสนอจากผู้ก่อความไม่สงบ 1-2 ข้อก่อนหน้าที่คณะพูดคุยจะเดินทางไปพูดคุยครั้งที่ 5 นั้น เป็นข้อเสนอทางธุรการเท่านั้น เพราะผู้ก่อความไม่สงบไม่มีอะไรเลย เขาก็เลยอยากได้กรอบกติกาบ้าง เกี่ยวกับการเดินทาง ห้องประชุมใครจัด อาหารใครเลี้ยง ก็ดูแลกันไป ทั้งเราและผู้อำนวยความสะดวก (มาเลเซีย) เป็นเพียงข้อตกลงทางธุรการเท่านั้น ไม่ใช่ข้อเสนอให้หยุดก่อเหตุในพื้นที่ ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องของ ความมั่นคงระหว่างประเทศ เพราะมันเป็นเรื่องความมั่นคงภายในของเรา 

- การพูดคุยครั้งต่อไป ฝ่ายรัฐจะยื่นข้อเสนออะไรเป็นข้อตกลง

ต้องการได้พื้นที่ปลอดภัย 3 เดือน 6 เดือน ก็ว่ากันไป ถ้าเลือกเองมันก็ต้องเป็นพื้นที่ที่มีเหตุ แต่ถ้ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเลือก เขาคงต้องเลือกพื้นที่ที่เขาไม่ทำอยู่แล้ว ความรับผิดชอบของเรา 

คือในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องปลอดภัยทั้ง 38 อำเภอ มันเป็นหน้าที่ของแม่ทัพภาคกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านเลขาฯ ศอ.บต. ที่ต้องดูแลให้ปลอดภัยทั้ง 38 อำเภอ ข้อเสนอของเราไม่ใช่คณะพูดคุยคิด แต่ได้มาจากประชาชนในพื้นที่ที่เขาต้องการ ไปถามฝั่งโน้นว่า 

ประชาชนเขาต้องการพื้นที่ปลอดภัย เขาต้องการพัฒนา แล้วคุณต้องการพัฒนาด้วยไหม ที่ประชาชนต้องการกับที่คุณต้องการเหมือนกันไหม คุณก็เสนอมาสิ เราจะได้ไปถามประชาชน เพราะเราถามมาแล้วว่าเขาต้องการแบบไหน กลับมาสู่กระบวนการยุติธรรมไหม เพราะบางคนก็มีหมายจับ มีคดีอยู่ เราก็จะดูแลตรงนั้นให้ จากหนักเป็นเบา แต่จะให้อยู่เหนือกฎหมายคงไม่ได้เราก็จะไปถามฝั่งโน้นว่า คุณเห็นด้วยไหม แล้วคุณจะเอาอะไรก่อน คุณมีอะไรมาเติมอีกไหม ต้องการอะไร เขาต้องการพื้นที่ปลอดภัยด้วยเหมือนกันใช่ไหม ต้องการความยุติธรรม ต้องการการพัฒนา ต้องการอาชีพ ต้องการการลงทุนขนาดใหญ่ 

- อะไรคือสัญญาณบ่งบอกว่าเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกันแล้ว

(สวนทันที) ต้องไม่มีเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ถึงจะไว้ใจ เพราะมีคนยังสงสัยอยู่ว่า คุณเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม ถ้ายังมีเหตุอยู่อย่างนี้ก็ยังไม่ไว้ใจ 

- กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่คุยอยู่ ตัวจริง เสียงจริง

เอ้า ไปหามาซิ ว่าคนอื่นมีอีกไหมล่ะ ก่อนจะไปพูดคุยต้องทำบัญชีผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ก่อน และบัญชีที่เรารู้จักกับบัญชีที่มาเลเซียรู้จักเป็นบัญชีเดียวกันหรือไม่ ต้องไปเช็กกับเขาอีก แล้วเอามาเทียบ รายชื่อกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในบัญชีของเรา มาจากข้อมูลของสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ กองสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ตรวจสอบอีก ท่านผู้ว่าฯ ท่านผู้นำทางศาสนา จนทุกคนมั่นใจแล้วว่า ในบัญชีเป็นผู้ที่ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่จริง จึงส่งให้ทางมาเลเซียตรวจสอบทั้งหมดว่า รู้หรือไม่ว่าเป็นใคร มายังไง ทางมาเลเซียก็เช็กแล้วตอบกลับมาว่า บัญชีที่เช็กตรงกันทั้งหมด ถึงเชิญมาคุย กว่าจะได้มา แต่ก็ยังมีคนมาบอกว่า ไอ้ที่คุยกันอยู่เนี่ย ปลอม แต่ที่จริงยังไม่ได้คุย แล้วไหนล่ะที่จริงของคุณ พอเปิดชื่อออกมันก็อยู่ในนี้ทั้งหมด แล้วมีนอกเหนือจากนี้ไหม ก็ไม่มี ที่เอ่ยชื่อมาแต่ละคนก็อยู่ในบัญชีทั้งหมด ตอนนี้ตัวละครออกมาครบทั้งหมดแล้ว คนสร้างปัญหา คนแก้ปัญหา เรื่องอย่างนี้โม้มากก็ไม่ได้ เพราะมีคนคอยถล่ม

- การก่อเหตุที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นความไม่เป็นเอกภาพของกลุ่มพูดคุยหรือไม่

เขาไม่มีเอกภาพ รวมตัวกันหลวม ๆ ก็ดี การมีเอกภาพไม่ดี เพราะสามารถสร้างอำนาจต่อรองได้ 

- ความต้องการปกครองตัวเองยังมีอยู่หรือไม่

นี่มัน พ.ศ.อะไรแล้ว มีใครพูดเรื่องนี้อีกไหมล่ะ เคยได้ยินไหมล่ะ บริบทมันก้าวข้ามไปแล้ว ผมไปคุยกับกลุ่มก่อความไม่สงบบีอาร์เอ็นมาแล้ว มันหมดเวลาแล้ว มันเลยขั้นนั้นไปแล้ว เพราะทหารไม่เข้าหมู่บ้าน เรากำลังเอาประชาชนไล่คนไม่ดีออกจากหมู่บ้าน ขณะนี้มันถึงขั้นเสียงของประชาชนในพื้นที่จะเป็นคนกำหนดความสงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

- ขั้นตอนใดถึงจะสามารถตกลงกันถึงขั้นหยุดก่อเหตุในพื้นที่

กำลังกล่อมอยู่นี่ไง แต่ต้องสร้างความไว้วางใจระหว่างสองฝ่ายก่อน โดยต้องไม่มีระเบิดในพื้นที่ ผมถึงจะไว้ใจคุณ มันไม่ถึงกับตกลงพักรบ ไม่ใช่การเจรจาเพื่อสันติภาพ เป็นเพียงแค่การเจรจาเพื่อสันติสุข เราแค่เป็นคนจูงมือออกมาถามว่าจะเอายังไง เขาก็มีมวลชนของเขา ทั้ง 2 ฝ่ายจึงต้องพูดแต่สิ่งดี ๆ

- หลังสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจได้แล้ว ขั้นต่อไปของโรดแมปคืออะไร

เมื่อผ่านระยะการสร้างความไว้วางใจไปแล้ว โดยไม่มีเหตุระเบิด มีความปลอดภัย ประชาชนเห็นพ้องต้องกัน มันถึงจะมาตกลงร่วมกัน แล้วในอนาคตถึงจะมาทำโรดแมป คำตอบอยู่ที่ประชาชนทั้งหมด มันก้าวข้ามและเลยขั้นความขัดแย้งระหว่างฝ่ายรัฐกับผู้ก่อความไม่สงบกลุ่มต่าง ๆ ไปแล้ว 

เหมือนกับความขัดแย้งทางการเมืองตอนนี้ที่รัฐบาลนี้เข้ามาแล้วกลับไปถาม กปปส. นปช. ที่ขึ้นศาลกันอยู่เนี่ย มันจบไปแล้ว มันมาถึงตรงนี้แล้ว ศาลตัดสินไปหมดแล้ว ต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น จะให้กลับไปอีกเหรอ ถามว่า นปช. กปปส.ต้องการอะไร มันเลยไปจนจะเลือกตั้งใหม่กันอยู่แล้ว จะไปถามกันทำไม

- คุยไปกี่ครั้งแล้ว

คุยกันตลอด ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ออนไลน์เป็นเมสเสจ (ข้อความ) ยกหูโทรศัพท์คุยกัน แต่ที่มานั่งตั้งโต๊ะคุยกันไม่บ่อย มันเปลืองค่าเครื่องบิน ไปทีต้องได้เรื่อง ต้องมีประเด็นถึงนัด 

- ความสำเร็จของคณะพูดคุย ณ วันนี้คืออะไร 

ความสำเร็จคือยังคุยกันอยู่ เพราะมันเป็นหนทางเดียวในการหาทางออกจากความขัดแย้ง สิ่งที่ทำให้คณะพูดคุยยืนอยู่ได้ทุกวันนี้ คือเอาความจริงเข้าสู้ ทุกคนอ้างว่าทำเพื่อประชาชน เราก็อยากจะบอกว่า ประชาชนเขาไม่ต้องการความรุนแรง เขาต้องการความสงบ ต้องปฏิเสธความรุนแรงทุกรูปแบบ จากทุกฝ่าย



Source : http://m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1458380026

No comments:

Post a Comment