Monday, 21 March 2016

เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง? จุดที่ "การกินข้าวยำ" และ "การวาดภาพ" เป็นภัยต่อความมั่นคง?

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เจะอับดุลเลาะ เจ๊ะสอเหาะ อาจารย์ประจำคณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี ได้โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว ถึงกรณีที่มีทหารพรานชุดดำมายืนสังเกตุการณ์ที่บ้านของตนซึ่งตั้งอยู่ในตำบลดอนรัก อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อเช้านี้ (21-3-2559)

(ทหารล้อมบ้านอาจารย์สอนศิลปะ ม.อ. เพียงเพราะไปวาดภาพที่ปอเนาะญิฮาด!)
“ยินดีครับแม้นว่าเข้ามาโดยไม่ได้บอกได้กล่าวเจ้าของบ้านสักคำ แต่ผมก็ตกใจค่อนข้างที่จะกังวลนิดหน่อย อย่างน้อยก็ควรจะขออนุญาตสักหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไรถือว่าเขาทำหน้าที่ ใครมาผมก็ยินดี เพราะเรามีความบริสุทธิ์ใจและเคารพในความเป็นมนุษย์ด้วยกันกับทุกมวลมนุษยชาติทุกคนไม่ว่าเขาจะนับถือศาสนาอะไร เชื้อชาติอะไร หน้าที่การงานอะไร จะสูงส่งหรือจะต่ำต้อย หากเขามาด้วยเจตนาดีผมก็ยินดีแต่หากมาเพราะเจตนาไม่ดีก็มาตรวจเช็คข้อมูลก็ขอให้เลิกมาซ่ะ 

Sunday, 20 March 2016

"พล.อ.อักษรา" เจรจาดับไฟใต้ ยื่นข้อเสนอผู้ก่อความไม่สงบ แลกพื้นที่สันติ

สัมภาษณ์พิเศษ
เหตุร้ายรายวันในพื้นที่ปลายด้ามขวาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงคุกรุ่น มาพร้อมกับคำถามถึงความคืบหน้าในนโยบายพูดคุยเพื่อสันติสุขของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี-หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 

1 ปี 6 เดือนกับภารกิจดับไฟใต้ของหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข "พล.อ.อักษรา เกิดผล" หรือ "บิ๊กโบ้" หลังรับงานหิน งานของชาติ ทว่าหลายฝ่ายยังตั้งคำถามถึงความสำเร็จ เป็นรูปธรรม จับต้องได้ ยิ่งถูกนำไปเปรียบเทียบกับคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพ ที่มี "เสธ.แมว" พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เป็นหัวหน้าพูดคุย ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปรากฏภาพลงนามพูดคุยสันติภาพกับ นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำขบวนการบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต โดยมีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกอย่างอึกทึกครึกโครมไปทั่วโลก ยิ่งถูกตั้งคำถาม

กินข้าวยำปอเนาะญีฮาด ปฏิบัติการสันติวิธีที่งดงามที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา

บทความโดย : supat hasuwannakit 
ผมไปมาแล้ว ปอเนาะญีฮาด เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผมรับรู้ได้ว่า แม้ศาลจะตัดสินอย่างยุติธรรมให้ริบทรัพย์ที่ดินปอเนาะให้เป็นของแผ่นดิน แต่ความสูญเสียมากมายที่ครอบครัวแวมะนอได้รับนั้นก็สร้างความสะเทือนใจและเกิดความรู้สึกเห็นใจของผู้คนในพื้นที่อย่างมาก การจัดงานกินข้าวยำเพื่อหาทุนซื้อที่ดินสร้างปอเนาะหลังใหม่ในวันนี้ ซึ่งได้รับการตอบรับมาร่วมงานให้กำลังใจอย่างล้นหลามหลายหมื่นคน สะท้อนถึงความรู้สึกไม่เป็นธรรมของคนพื้นที่ในความเป็นธรรมของรัฐไทย

Friday, 18 March 2016

Renungan dan kajian terhadap Serangan pejuang pembebasan Patani

Oleh :Semut Api

Salam satu Patani, sedikit renungan dan kajian terhadap Serangan pejuang pembebasan Patani di kem tentera renger Siam di hospital Choh Erong Narathiwat pada 13 -3- 2016 telah mengundang dan menjadi perhatian bagi setiap lapisan masyarakat, terutama lembaga kemanusiaan dan hak asasi manusia. Dalam dan Luar negara. 

Wednesday, 16 March 2016

คลี่หมอกห่มเขาตะเว...ไขปริศนายึดโรงพยาบาล


       หลักฐานจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด และวัตถุพยานที่เก็บได้จากบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ ชัดเจนว่าคนร้ายกว่า 50 คนใช้เส้นทางจากเทือกเขาตะเว บุกเข้ายึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ก่อนเปิดฉากยิงถล่มฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4816 จากนั้นก็หลบหนีโดยย้อนกลับขึ้นไปบนเทือกเขาตะเวซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังโรงพยาบาล
       คำบอกเล่าของหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเคยใช้เส้นทางด้านหลังโรงพยาบาลที่เชื่อมต่อไปยังเทือกเขาตะเว ทำให้ทราบว่าคนร้ายน่าจะวางแผนมาค่อนข้างนานก่อนเข้ายึดโรงพยาบาล เพราะมีนั่งร้านที่คนร้ายสร้างไว้บนต้นไม้ คาดว่าใช้สำหรับสังเกตความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล รวมทั้งมีเศษมะพร้าวที่ปอกแล้วจำนวนมาก เชื่อว่าเป็นอาหารที่คนร้ายใช้ยังชีพ

Monday, 14 March 2016

นักวิจัยอิสระชี้! ทั้งสองฝ่ายต้องเคารพ IHL เพื่อช่วยเพิ่มความคุ้มครองพลเรือน

คุณรุ่งรวี เฉลิมศรีภิญโญรัช นักวิจัยอิสระ และผู้เขียนหนังสือ ถอดความคิดขบวนการเอกราชปาตานี ได้แสดงความคิดเห็นต่อกรณี เหตุการณ์การบุกเข้าในโรงพยาบาล ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า
เหตุการณ์การบุกเข้าไปในโรงพยาบาลเจาะไอร้องเมื่อคืนมีหลายๆ ประเด็นให้ขบคิด จากข่าวสารที่เผยแพร่ออกมาดูเหมือนว่าเป้าของการโจมตีอยู่ที่ค่ายทหารที่อยู่ติดกัน ไม่ได้มุ่งที่จะบุกโรงพยาบาล ไม่มีการทำร้ายใครในโรงพยาบาลแต่ได้ทำลายเครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงถูกมัดมือไพล่หลังและควบคุมตัวอยู่พักหนึ่ง

ปฏิบัติการทางทหารในโรงพยาบาลเจาะไอร้องเมื่อวาน ‪#‎บ้าทั้งคู่‬

บทความโดย : Suhaimee Dulasa

ฝ่ายหนึ่ง...#สร้างค่ายทหารติดกับโรงพยาบาล (นอกจากโรงพยาบาล ก็มีค่ายทหารในเขตโรงเรียน วัด ใกล้ตลาด กลางชุมชน ฯลฯ) ซึ่งรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองคือเป้าแข็งสำหรับการถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามและเป็นคู่สงครามที่ต่อสู้กันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน 

Sunday, 13 March 2016

10 มีนาคม 1909 วันลงนามสนธิสัญญากรุงเทพหรือสนธิสัญญาแองโกลสยาม 1909 (Anglo-Siamese treaty 1909)

ในอดีตกาล แผ่นดินมลายูบนคาบสมุทรนั้นครอบคลุมถึงบริเวณคอคอดกระ ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่งของประเทศไทยและพม่า ประชากรรัฐปาตานีใช้ภาษามลายูถิ่นกลันตัน (เขียนด้วยอักษรยาวี) ในการสื่อสาร ในขณะที่ชาวมลายูในบริเวณสโตล (สตูล) ไปถึงรุนดุง (ระนอง) และเกาะดูวา (Kawthong) ในพม่า สื่อสารกันโดยใช้ภาษามลายูถิ่นแบบเคดาห์
ชาวมลายูที่อาศัยในบริเวณดังกล่าวไม่ใช่ผู้อพยพ แต่กลับกันพวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้สืบทอดจากบรรพบุรุษ ตั้งแต่สมัยอาณาจักรลังกาสุกะและศรีวิชัย ในฐานะชาวพื้นเมืองดั้งเดิมที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินนี้มาอย่างช้านาน

KONFRONTASI; PATANI VS THAILAND [ Perang Asimetris Ideolog | Full Times and Part Times ]

Rekonsialisasi pemerintah Thailand dengan masyarakat Patani dalam menyelesaikan konflik yang selama ini terjadi dengan menglibatkan pihak ketiga yaitu actor asing yang dorong dan dokongan sehingga melahirkan kesepakatan perhatian peremushan akibat konflik dan prosesi perdamaian yang hakiki.
Dalam konflik yang terjadi dapat kita temui bahwa konflik umumnya berakar pada latar-belakang politik, maupun berasal dari kebijakan yang tidak adil. Di sisi lain, ketidak-imbangan alokasi sumberdaya telah mendorong rasa ketidakadilan yang berujung pada konflik. Sementara, isu agama, etnis, maupun separatism, merupakan factor pemicu yang membungkuskan konflik terus berkepanjangan. Dalam situasi konflik, hampir seluruh fungsi-fungsi pemerintah tidak dapat berjalan efektif.

Saturday, 12 March 2016

ความเป็นมา ปอเนาะญีฮาดวิทยา โดยสังเขป ( Time Line - Pondok Jihad )

- พ.ศ.2511บาบอเฮง ก่อตั้ง ปอเนาะญีฮาดวิทยา เพื่อแก้ปัญหาการขาดการศึกษาและด้านสังคมที่ในสมัยนั้นมีแหล่งอบายมุขป็นเรื่องปกติ ชื่อปอเนาะว่า“ญีฮาด”นั้น หมายถึง “(มุญาฮาดะห์) การมุ่งมั่งในการพัฒนาตนเอง การปรับปรุงตนเอง” 

- 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2522บาบอเฮง หรือ นายบือราเฮง เจ๊ะอาแซถูกยิงเสียชีวิตหลังจากนั้นชาวบ้านได้เห็นควรร่วมกันแต่งตั้ง นายดุลเลาะ แวมะนอมาป็นผู้รักษาการแทน บาบอเฮง

Friday, 11 March 2016

‘ปอเนาะ’ สถาบันทางสังคมที่ยังคงอยู่ในสังคมปาตานี

โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามหรือ ปอเนาะในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดปัตตานี ยังคงดำเนินการเรียนการสอนวิชาศาสนาอิสลามมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ในการที่ผลิตปวงปราชญ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

เจ้าของโรงเรียนปอเนาะแห่งหนึ่งในอำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ต่วนฆูรู อับดุลการีม ฮัซบุลลอฮฺ กล่าวว่า สถาบันปอเนาะเปรียบเสมือนสถาบันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคมปาตานี ที่ได้ทำหน้าที่สำหรับการไขว่คว้าความรู้ทางศาสนาไม่ต่ำกว่า 80 ปีมาแล้ว

Wednesday, 9 March 2016

เปิดใจ บันยาล แวมะนอ : “ญีฮาดฯ ไม่กลับไปที่เดิมอีกแล้ว”

โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ Dsj รายงานข่าว  เปิดใจบันยาล แวมะนอ เหตุผลที่ต้องทิ้งปอเนาะญีฮาดวิทยาเดิม เพราะถูกสร้างให้มีมลทินไปแล้ว แต่ไม่ทิ้งเจตนาเดิมของผู้ก่อตั้งและชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมใจจัดงานเลี้ยงหาทุนสร้างสถานศึกษาในที่ใหม่ที่มากกว่าความเป็นปอเนาะ โต๊ะอิหม่ามย้ำปอเนาะญีฮาดเป็นวาระของทุกคนและมติของชาวบ้านท่าด่านที่ต้องการให้ย้ายออกมาสร้างที่อยู่ใหม่
การตัดสินใจทิ้งโรงเรียนญีฮาดวิทยาของครอบครัวแวมะนอแล้วไปพักอาศัยชั่วคราวที่มัสยิดและโรงเรียนตาดีกาบ้านท่าด่าน ม.3 ต.ตะโล๊ะกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี รวม 14 ชีวิต หลังจากศาลแพ่งพิพากษาริบทรัพย์สินที่ดินโรงเรียนญีฮาดวิทยาหรือปอเนาะบ้านท่าด่านเนื้อที่ 14 ไร่เศษตกเป็นของรัฐในความผิดฐานก่อการร้ายตามกฎหมายฟอกเงินส่ง ผลสะเทือนไม่น้อยต่อสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้/ปาตานี

Tuesday, 8 March 2016

พล.อ.สำเร็จ: ไฟใต้สงบยังมองไม่เห็นทาง แนะ กอ.รมน.ปรับโครงสร้างยุทธวิธี

การระดมสรรพกำลังทุกด้านเพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ในยุค คสช.นี้ และยังให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) เป็น "หน่วยนำ" ในการขับเคลื่อนทั้งยุทธการและงบประมาณ เพื่อความเป็นเอกภาพ ทำให้หลายฝ่ายคาดหวังว่าสถานการณ์ความไม่สงบที่ปลายด้ามขวานจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

แต่แล้วก็ยังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง แม้ปริมาณและความถี่ดูเหมือนจะลดลง แต่ในทางความรู้สึกไม่ลดลงเลย

          ปัญหาอยู่ตรงไหน? เป็นคำถามที่ใครหลายคนคงตั้งขึ้นในใจ ทีมข่าวอิศราจับเข่าคุยกับ พล.อ.สำเร็จ ศรีหร่าย อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งได้รับการยอมรับทั้งในแง่ฝีมือการรบ และองค์ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างกลุ่มก่อความไม่สงบนาม บีอาร์เอ็นมากที่สุดคนหนึ่ง เพื่อไขคำตอบให้กระจ่าง

Monday, 7 March 2016

สถานการณ์ปาตานี ประจำเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2549

★☆ กราด M.16 ผรส.เมืองยะลาดับ ☆★

เมื่อ 01 ก.พ. 59 เวลา 22:40 น.
สภ.ลำใหม่ รับแจ้งเหตุ คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืน M.16 กราดยิงราษฎรเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นาย ซัมซูดิง บือตง ( ผรส.)
ขณะที่ผู้เสียชีวิตกำลังไปดูคนงานที่กำลังก่อสร้างกำแพงกูโบร์
เหตุเกิด บ.บาโจ ม.3 ต.ยะลา อ.เมือง จว.ยะลา

Sunday, 6 March 2016

สถานการณ์ปาตานี ประจำเดือนมกราคม พ.ศ.2549

★☆ ปิดล้อมแหล่งมั่วสุม ☆★
เมื่อ 10 ม.ค 59 เวลา 14:00 น. เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายร่วมกัน ปิดล้อมตรวจค้นใน พื้นที่ บ้านซารายอ ม.1ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก ลก จ.นราธิวาส เนื่องจากสืบทราบว่าเป็นแหล่งมั่วสุมใช้เป็นสถานที่เสพยาเสพติด
ผลการตรวจค้น พบมีกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมเสพยาเสพติดประเภท5 (น้ำกระท่อม) อยู่ด้วยกัน7คน และยังตรวจพบอาวุธปืนในที่เกิดเหตุ จำนวน 4 กระบอก ได้แก่
- อาวุธปืนสั้น จำนวน 2 กระบอก
- อาวุธปืนอาก้า 1กระบอก
- อาวุธปืนลูกซอง 1 กระบอก
และเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยน้ำกระท่อม และ กัญชา จำนวนหนึ่ง เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 127/3 บ้านซารายอ ม1 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก


ว่าด้วย..‎มาร่าปาตานี‬

เขียนโดย ซูไฮมี ดูละสะ

ก่อนอื่นต้องชี้แจ้งให้ทราบก่อนว่า ผมไม่มีอคติต่อมาร่าปาตานีหรืออคติต่อแกนนำขบวนการต่างๆที่อยู่ในมาร่าปาตานีใดๆทั้งสิ้น หลายปีที่ผ่านมาเรารอการเกิดมาขององค์กรทางการเมืองแบบมาร่าปาตานีอยู่แล้ว เราดีใจด้วยซ้ำที่มาร่าปาตานีกำเนิดขึ้นมา 

เพราะองค์กรทางการเมืองของปาตานีเท่านั้นที่ชอบธรรมในการนำเป้าหมาย ความต้องการ ความปวดร้าว และข้อเสนอทางการเมืองของคนปาตานี เพื่อเสนอให้กับรัฐไทยและสังคมนานาชาติได้รับทราบถึงสิ่งเหล่านั้น แต่ที่เราคัดค้านและไม่เห็นด้วยกับมาร่าปาตานีและเหล่าแกนนำของมาร่าฯ มีดังนี้

SEJARAH ASAL USUL SEKOLAH MELAYU DI PATANI

Ada bukti mengatakan bahawa sekolah Melayu (TADIKA: Taman Didikan Kanak-Kanak) telah diakui oleh Kementerian Dalam Negeri Thailand, Pada tanggal 27 October 1949 (2492 B). Ini bererti sekolah Melayu telah wujud sebelum tarikh itu lagi.
Asal Sekolah Melayu dan TADIKA
Pada asal sekolah Melayu adalah di ibaratkan sebagai pusat pengajian Al-Quran dan Bahasa Melayu di rumah-rumah Tuan Guru yang mengajar Al-Quran waktu sepas sholat Maghrib, kemudian mengajar mata pelajaran Tajuwid dan Bahasa Melayu dengan menggunakan tulisan Jawi (Arab-Melayu). Disebabkan pada satu masa dulu, kerajaan Siam memaksakan anak-anak Melayu Patani bersekolah dalam system persekolahan Siam (Sekolah Dasar Kebangsaan Thai), ia menggunakan bahasa Thai sebagai pengantar serta mengharamkan bercakap Malayu dalam sekolah Siam. Maka peluang untuk anak Melayu belajar agama dan Melayu sangat sedikit.

PERANG RAKYAT DI PATANI DAN PUNCA PATANI DIRAMPAS OLEH SIAM

Perang rakyat di Patani dalam sejarah adalah perjalanan hidup manusia ada semenjak masa dahulu dan masa era kekinian, perkembangan demi perkembangan sesuai dengan corak bumi dan tinkahlaku manusia didalam masanya masing-masing dalam menentu cara berperang, seiring dengan perkembang ilmu pengetahuan dan teknologi yang dikembangkan oleh para ilmuan, baik yang ada di Barat dan Timur, semua adalah untuk memajukan bangsa diri sendiri, dalam rangka bersaingan dan pertahanan sebuah wilayah yang mareka sedang huni didalamnya.

Sedih dan luka yang membawa pilu menghiris hati anak bangsa dan umat manusia bila peperangan terjadi dan kedamaian adalah harapan satu-satunya untuk membawa ketenangan didalam kehidupan, jiwa kecil dalam diri anak manusia tidak ada keinginan untuk berperang, akan tetapi jalan buntu dalam penyelesaian masalah, maka perang yang menjadi pilihan anak manusia dimuka bumi ini, dari zaman batu sampai pada zaman modern sekarang.

Wednesday, 2 March 2016

วิถีสามก๊ก ตอนที่ 6 อ้วนเสี้ยว : ทำงานสไตล์ลูกคุณหนู

     "อ้วนเสี้ยว" เจ้าเมืองปุดไฮ เป็นลูกชายคนโตของตระกูลอ้วนที่ทำงานเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในราชวงศ์ฮั่นมาหลายชั่วอายุคน ในช่วงที่ตั๋งโต๊ะครองอำนาจทางการทหารและใช้ความหยาบช้าข่มเข็ญราษฎรนั้น อ้วนเสี้ยวเป็นตัวตั้งตัวตีในการรวบรวมกองทัพทั้ง 18 หัวเมืองในการกำราบตั๋งโต๊ะ 

      แต่สุดท้ายก็ล้มไม่เป็นท่า เพราะเจ้าเมืองทั้ง 18 คนไม่ได้มีใจในการกำจัดตั๋งโต๊ะไม่ เพียงแต่เข้าร่วมสมัชชา 18 หัวเมืองเพื่อหวังผลทางการเมือง คอยตั้งท่าจะกำจัดกันเองเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ แต่ที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวอ้วนเสี้ยวที่เป็นผู้นำเองที่ "เอาเจ้าเมืองทั้ง 18 คนไม่อยู่ บริหารงานไม่เป็น" ทำให้ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและนโยบายขององค์กร 18 หัวเมืองไม่มีทิศทาง สุดท้ายก็แตกแยกกันเอง สิ้นสุดสมัชชา 18 หัวเมืองจอมปลอมลงไป  ภายหลังเสร็จสิ้นศึกเฮาโลก๋วน

วิถีสามก๊ก ตอนที่ 5 สุมาอี้ : คนไประบบต้องอยู่


   "สุมาอี้" ชื่อนี้ผู้ที่อ่านสามก๊กคงรู้จักกันดีว่าเป็นผู้สวมบท "ตาอยู่" ในการรบระหว่างสามยอดคน "เล่า-โจ-ซุน" และเป็นคนที่ชิงจังหวะยึดแผ่นดินรวมก๊กที่แตกแยกเข้าด้วยกันได้สำเร็จ แต่ผู้ที่ไม่ได้อ่านสามก๊กอาจจะสงสัยว่า สุมาอี้คือใคร มาจากไหน

   โดยสังเขป สุมาอี้เป็นข้าราชการให้กับโจโฉมาก่อน แต่ด้วยบุคลิกที่เรียกว่า "จิ้งจอกเหลียวหลัง" ที่สามารถใช้สายตามองด้านหลังผ่านหัวไหล่ โดยที่คอยังตั้งตรงอยู่ได้ ลักษณะแบบนี้โจโฉมองว่าไม่ดี เพราะจะมาแว้งกัดได้ภายหลัง จึงแนะโจผี (ลูกชายของโจโฉ) ว่าให้ระวังสุมาอี้ให้ดี สุมาอี้เป็นคนฉลาด ชำนาญพิชัยสงคราม รอบคอบและหนักแน่นเด็ดขาด

วิถีสามก๊ก ตอนที่ 4 ขงเบ้ง : ผู้บริหารสันดานเสมียณ


"ขงเบ้ง หรือ จูกัดเหลียง" ที่ปรึกษามือหนึ่งแห่งจ๊กก๊ก ของเล่าปี่ ถ้าเป็นองค์กรขนาดใหญ่ขงเบ้งก็เปรียบเหมือนกับ CEO ที่มีอำนาจหน้าที่ในหารบริหารธุรกิจแทนเจ้าของหรือก็คือมือปืนขององค์กรนั่นเอง ขงเบ้งเป็นผู้มีความฉลาดหลักแหลมทั้งในเรื่องการบริหารภายในองค์กรและการบริหารในเชิงกลยุทธ์และนโยบาย กล่าวคือ แต่เดิมองค์กรของเล่าปี่ก็ประกอบด้วยฝ่ายที่ปรึกษา ได้แก่ ซุนเขียน บิต๊ก (พี่ชายของนางบิฮูหยินผู้เป็นภรรยาเล่าปี่) กันหยง และฝ่ายปฏิบัติการได้แก่ กวนอู เตียวหุย จูล่ง หากมองเผินๆ จะพบว่าฝ่ายปฏิบัติการ (ฝ่ายบู๊) นั้นมีความเข้มแข็งมาก หากแต่ฝ่ายที่ปรึกษา (ฝ่ายบุ๋น) นั้นยังไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร (ดังที่สุมาเต๊กโชอาจารย์ของขงเบ้ง บอกกับเล่าปี่ว่าคนเหล่านี้เป็นเพียงผู้รู้หนังสือเท่านั้น หาใช่ปราชญ์ผู้พลิกแผ่นดินไม่) เพราะบุคคลดังกล่าวก็มาจากคนสนิทของเล่าปี่เอง ถ้าเทียบกับบริษัทหรือโรงงานๆ หนึ่งนั้น อาจจะมองได้ว่าฝ่ายผลิตและฝ่ายวิจัย มีความสามารถในการผลิตสินค้าที่ดีมากๆ หากแต่ขาดฝ่ายการตลาดและฝ่ายกลยุทธ์ที่จะช่วยขายสินค้าเหล่านี้ให้ได้ ดังนั้นขงเบ้งจึงเป็นบุคคลที่สามารถเข้ามาเติมเต็มส่วนนี้ให้กับเล่าปี่ได้ จนทำให้เล่าปี่ตั้งตัวเป็นกษัตริย์ได้ในที่สุด

ประวัติศาสตร์นอกตำรา ตอน ซุนปิน

        โดย...อาจารย์ษณอนงค์ คำแสนหวี (อ.แอน)


        ซือหม่าเชียน ที่เคยเรารู้จักจากภาพยนต์เรื่อง หมอดูเทวดา สมัยฮั่นอู่ตี้ ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก มีตัวจริงในประวัติศาสตร์ เขียนถึง ซุนปิน ว่า

         "เมื่อซุนหวู่ตายไปประมาณร้อยปี นับไปได้ห้าชั่วคน ถึงซุนปิน ทายาทชั้นเหลน เกิดที่อำเภอจ้วน จังหวัดโว (ปัจจุบันคือ อำเภอ จ้วนเฉิง มณฑลซานตง) ซุนปินทำศึกมีชัยชนะต่อศัตรูคู่แค้นด้วยกลศึกที่แยบยล ต่อมาลาออกจากราชการเพื่อเขียนตำราพิชัยสงครามอันเลื่องลือว่า "ซุนปิงปิงฟะ" (ตำรายุทธพิชัยสงครามซุนปิ้น (
孙膑兵法)”)