ลางบอกเหตุอีกอันหนึ่งซึ่งก็คือ พวกตะวันตกเริ่มออกอาวุธรางวัลโนเบลกับอินโดนีเซีย รางวัล โนเบลคืออาวุธของตะวันตก หากพวกตนไม่ชอบรัฐบาลประเทศไหน ก็จะไปสร้างข่าวให้รัฐบาล นั้นเป็นยักษ์เป็นมาร และก็จะพยายามสร้างพระเอกนางเอกของพวกตนขึ้นมา อย่างในกรณีพม่า ตะวันตกชูนางซูจีขึ้นมา และให้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพแก่นางซูจีด้วย
รัฐบาลออสเตรเลียเอานายโฮเซ่ รามอส ฮอร์ตา (คนที่เพิ่งชนะได้เป็นประธานาธิบดี) ไปฟูมฟัก ในดินแดนของตน จากนั้น ก็จัดการให้นายฮอร์ตาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพร่วมกับ บิชอป คาร์ลอส ฟิลิเป ซิเมเนส เบโล
เมื่อจัดการให้เด็กสร้างของตะวันตกได้รับรางวัลโนเบลแล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพ ยุโรปทั้ง 15 ประเทศ (ในสมัยนั้นอียูมีสมาชิกแค่ 15 ประเทศ) ก็ประกาศให้ความช่วยเหลือ จังหวัดติมอร์ตะวันออกโดยตรง โดยไม่ผ่านรัฐบาลอินโดนีเซีย ผู้อ่านท่านลองตรองดูเถิด หากมีกลุ่มชาติมหาอำนาจประกาศให้ความช่วยเหลือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไม่ผ่านรัฐบาลไทย ท่านทั้งหลายรวมทั้งนิติภูมิก็คงไม่พอใจ ผมเองคนหนึ่งละ ที่จะลุกขึ้นยืนประท้วง หากใครมาทำทุเรศอย่างนี้
ฝ่ายอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีมุสลิมมากที่สุดในโลกก็พยายามสู้ โดยการไปขอความช่วยเหลือจากองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก ซึ่งในตอนนั้นมีสมาชิก 54 ประเทศ ให้ชาติอิสลามมาช่วยกันยันพวกตะวันตก องค์กรอิสลามมีเท่าใด ประธานาธิบดีซูฮาร์โตไปขอความช่วยเหลือหมด ไม่ว่าจะศาลยุติธรรมระหว่างประเทศของอิสลาม ธนาคารพัฒนาประเทศอิสลาม แต่สมาชิกส่วนใหญ่ขององค์กรอิสลามมักจะอยู่ในทวีปแอฟริกา ไม่ค่อยมีบารมี ตะโกนอะไรออกไป โลกก็ไม่ฟัง
บ้านเมืองใดก็ตาม ยามจะแตก มักจะมีแต่เรื่องเคราะห์หามยามซวยอย่างต่อเนื่อง อินโดนีเซียมีโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติในหมู่เกาะนาทูนาในทะเลจีนใต้ ร่วมกับบริษัทเอกซ์ซอน มูลค่า 36,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
กำลังไปได้สวย จีนก็มาประกาศสิทธิเหนือหมู่เกาะนาทูนา
กับมาเลเซีย อินโดนีเซียก็มีปัญหาการอ้างสิทธิเหนือเกาะลิกิตันและเกาะซิปาดัน มาเลเซียลากเรื่องนี้ไปฟ้องศาลโลก ซึ่งต่อมา มาเลเซียก็ชนะ
No comments:
Post a Comment