"ซุนกวน" ประมุขแห่งง่อก๊ก เป็นผู้นำที่มีอายุน้อยที่สุดในบรรดาก๊กทั้งสาม (น้อยกว่าโจโฉ 26 ปี และน้อยกว่าเล่าปี่ 20 ปี) ถึงแม้บางคนอาจจะมองว่าซุนกวนไม่ได้สร้างก๊กขึ้นมาเองเหมือนโจโฉและเล่าปี่ เพราะรับสืบทอดต่อมาจากพี่ชาย (ซุนเซ็ก) ที่ถูกลอบสังหาร
แต่ถึงกระนั้นสุภาษิตที่ว่า "สร้างว่ายากแล้ว รักษาไว้ยิ่งยากกว่า" ย่อมเหมาะสมที่สุดสำหรับซุนกวน เพราะต้องแบกรับความกดดันจากวีรกรรมที่พ่อ (ซุนเกี๋ยน) และพี่ชาย (ซุนเซ็ก) ได้สร้างไว้ เนื่องจากซุนเกี๋ยนเมื่ออายุ 19 ปี ก็ได้สมญาว่าพยัคฆ์แดนใต้ ส่วนซุนเซ็กเมื่ออายุ 26 ปี ก็ครองความยิ่งใหญ่ ตั้งตนเป็นอ๋องแห่งกังตั๋งได้สำเร็จ ความกดดันจึงตกมาที่ซุนกวน กล่าวคือทำดีก็เสมอตัว ทำชั่วก็โดนครหา

แสดงถึงการที่ซุนกวนสามารถลบคำสบประมาณได้อย่างราบคาบ ซึ่งหลังจากนั้นโจโฉก็หาโอกาสมาตีกังตั๋งไม่ได้อีกเลยตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของเขา ที่เป็นเช่นนี้มิใช่เพราะซุนกวนเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจ หรือเป็นนักวางแผนที่ดีเยี่ยม หากแต่เขารู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักรับฟังผู้อื่น และรู้จักใช้คนนั่นเอง
- อ่อนน้อมถ่อมตน เปิดใจรับฟังผู้อื่น ยกตัวอย่างเมื่อครั้งที่โจโฉจะยกทัพมาบุกกังตั๋ง ซุนกวนเรียกขุนนางทั้งบุ๋นและบู๊ มาประชุมด่วน ซุนกวนถามความเห็นแต่ละฝ่ายว่าจะออกรบหรือไม่ ตรงนี้แสดงถึงการที่เขาเปิดใจรับฟัง แม้ว่าจะเป็นถึงผู้ที่มีอำนาจสุงสุด (ถ้าในบริษัทอาจจะเหมือนประธานบริษัท) หลังสอบถามแล้วปรากฏว่าเสียงแตกเป็นสองเสียง คือฝ่ายบุ๋นอยากให้สวามิภักดิ์ เพราะกำลังน้อยกว่ามาก แต่ฝ่ายบู๊อยากให้รบเพราะถึงแม้กำลังน้อย แต่การรบคราวนี้เป็นการรบทางเรือ ทางกังตั๋งได้เปรียบกว่า ตรงนี้ซุนกวนก็ลังเล สุดท้ายนึกคำพี่ชายที่สั่งเสียงก่อนตายออกว่า "การภายในให้ปรึกษาเตียวเจียว การภายนอกให้ปรึกษาจิวยี่" จึงรีบเรียกจิวยี่มาปรึกษา สุดท้ายทำตามคำแนะนำของจิวยี่ ที่แนะให้เปิดศึกกับโจโฉและสามารถกำชัยชนะมาได้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการรับฟังและวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ สุดท้ายก็ตัดสินใจภายใต้ข้อมูลที่ตนเองมี โดยใช้หลักทางตรรกะที่ชัดเจน เมื่อลองหันมามองกับชีวิตการทำงานของเรา สามารถมองได้ว่าการทำงานในแต่ละวันต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากคนทั้งภายในและภายนอกองค์กร ซึ่งการรับฟังบางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องง่าย แต่แท้จริงยากนัก เพราะหลายครั้งที่เรามีอคติ (Bias) ทำให้เราไม่ได้ข้อมูลที่ตรงประเด็น ดังนั้นการที่จะรับฟังผู้อื่นได้จะต้องเปิดใจให้ได้เสียก่อน เพราะบางครั้งคนที่ให้ข้อมุลเราอาจจะมีตำแหน่งเล็กกว่าเราด้วยซ้ำ หรือบางครั้งผู้ที่ให้ข้อมูลเราก็มีตำแหน่งใหญ่กว่าเรา เราจึงควรอ่อนน้อมถ่อมตน เปิดใจรับฟัง เพื่อให้ได้ข้อมุลต่างๆ ที่ถูกต้อง ตรงประเด็น ปราศจากอคติ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ เราจะต้องนำมาพิเคราะห์อีกครั้ง จากนั้นจึงค่อยตัดสินใจตามอำนาจหน้าที่ ถ้าทำเช่นนี้ได้ย่อมทำให้งานของเราราบรื่นในที่สุด
- การรู้จักใช้คน หลายครั้งที่ซุนกวนได้เลือกใช้คนได้เหมาะกับงานและตรงกับวัตถุประสงค์ ซึ่งทำให้สุดท้ายงานนั้นสำเร็จในที่สุด เช่น ใช้จิวยี่เป็นแม่ทัพเปิดศึกเซ็กเพ็กกับโจโฉ ใช้ลิบองเป็นแม่ทัพไปแย่งเกงจิ๋วคืนจากกวนอู (สุดท้ายจับกวนอูได้ และส่งให้ซุนกวนประหาร) หรือใช้ลกซุนออกรบกับเล่าปี่ (สุดท้ายเล่าปี่แพ้และตรอมใจตาย) ซึ่งทั้งหมดนี้ซุนกวรล้วนใช้คนอายุน้อยกว่าไปกำจัดคนอายุมากกว่า แก่กล้าวิชากว่าทั้งสิ้น แสดงถึงวิสัยทัศน์ในการเปิดโอกาสให้คนดีมีฝีมือได้แสดงออก โดยไม่เกี่ยงเรื่องตำแหน่ง ทำให้คนเหล่านี้กล้าที่จะแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ภายใต้ลักษณะงานที่เขาถนัด ซึ่งยังผลให้งานทุกอย่างสำเร็จลุล่วงลงได้ด้วยดี เมื่อลองมองกลับมาเทียบกับยุคปัจจุบันจะพบว่า การทำงานส่วนมากเรามีผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสิ้น ตั้งแต่โฟร์แมนคุมคนงาน หัวหน้างาน (supervisor) คุมพนักงาน ผู้จัดการคุมแผนก หรืออาจเป็นผู้บริหารคุมทั้งองค์กร ตรงนี้การเลือกคนให้ถูกกับงานมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะถ้าให้เขาได้ทำงานที่ถนัดและชื่นชอบ (ถ้าทำได้) รวมถึงในเวลาที่เหมาะสม ย่อมทำให้งานนั้นๆ สำเร็จลุล่วงได้ โดยที่คนเป็นหัวหน้าไม่ต้องเหนื่อย เหมือนกับคำที่ว่า "Put the right man on the right job in the right time"
ซุนกวนตัดมุมโต๊ะออกรบโจโฉ
Source : http://samkokforsalaryman.blogspot.my/
No comments:
Post a Comment